4/14/2010

ECO Car รายละเอียด วิธีเลือก

คำว่า Eco car ย่อมาจาก Ecology Car มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า รถยนต์นั่งประหยัดพลังงาน ตามมาตรฐานสากลมีความปลอดภัยสูง เพราะผู้ผลิตจะต้องผลิตให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์ของคณะกรรมาธิการ เศรษฐกิจยุโรปแห่งสหประชาชาติ (UNECE) อันเป็นที่ยอมรับทั่วโลก โดยในไทยมีค่ายรถยนต์ 6 รายที่ได้ทำข้อตกลงผลิตรถยนต์ Eco car กับทางกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

รถยนต์ Eco car ที่จะผลิตออกมานั้นต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. ประหยัดน้ำมันใช้เชื้อเพลิง ไม่ต่ำกว่า 5 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 20 กิโลเมตร/ลิตร

2. รักษาสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานยูโร 4 ปล่อย Co2 น้อยกว่า 120 กรัม/1 กิโลเมตร
3. ความปลอดภัยระดับสูง มาตราฐาน UNECE 94,95 ปลอดภัยจากการชนด้านหน้า+ด้านข้าง
4. ความคล่องตัวเครื่องยนต์ไม่เกิน 1300ซีซี สำหรับเครื่องเบนซิน และไม่เกิน 1400ซีซี สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

ทั้งนี้โครงการรถยนต์เล็ก Eco car ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้คนใช้รถ และตอบโจทย์การประหยัดพลังงานที่หลายประเทศในโลกต่างก็ให้ความสำคัญ พร้อมทั้งส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ ให้เมืองไทยเป็นแหล่งผลิตรถยนต์รูปแบบใหม่ เพื่อแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้

ที่มา kapook.com
http://www.9bbank.com/eco-car/


รถ ECO Car เทรนด์ใหม่ รถเล็ก ประหยัดพลังงาน
จบสิ้นเวลาแห่งการรอคอย "รถเล็ก" หรือ eco car เมื่อค่ายรถยนต์ Nissan เปิดตัวรถ eco car คันแรกของไทย และสามารถสร้างกระแส eco car ได้แรงเอาการ แต่ที่ทำเอาวงการยานยนต์ฮือฮา ไม่ใช่เพราะนิสสันได้ เคน ธีรเดช มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพียงอย่างเดียว หากแต่รูปลักษณ์ของ Nissan March ช่างกะปุ๊กลุ๊กน่ารักซะไม่มี แถมราคายังน่าคบ เริ่มต้นประมาณ 3.89 แสนบาท และสูงสุดประมาณ 5 แสนบาทต้น ๆ

...เมื่อบวกกับรูปลักษณ์และมาตรฐานการผลิตแล้ว จึงทำให้ Nissan March รถยนต์ eco car คันแรก สร้างกระแสความน่าสนใจใน eco car ได้ดีทีเดียว

หากมองกลุ่มเป้าหมายของ รถเล็ก eco car นั้น เหมาะมากสำหรับคนเมือง โดย เฉพาะกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน ใช้ชีวิตโสด กลุ่มครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้น หรือใครก็ตามที่ขับรถ เช้า-เย็น นั่งอยู่คนเดียวภายในรถ แบบว่านาน ๆ ทีจะมีใครมาเป็นแขก เพราะด้วยความเล็ก หากมีสมาชิกที่ต้องโดยสารไปด้วยมากกว่า 4 คน มันอาจจะดูคับแคบไปสักหน่อย แต่ก็อย่างที่บอก รถยนต์ eco car นอกจากจะมีจุดเด่นในขนาดที่เล็ก กะทัดรัด และประหยัดพลังงานแล้ว ยังดูเหมือนว่าราคาจะสบายกระเป๋าอีกด้วย

อย่างไรก็ตามคงต้องจับตาดูตลาด รถยนต์ eco car ในประเทศไทยกันต่อไป เพราะนี่เพิ่งแค่เริ่มต้น อย่าลืมว่า ยังมียักษ์ใหญ่อีกหลายค่าย ที่กำลังเร่งมือทำรถยนต์ eco car มาประลองตลาด ...สวย จิ๋ว ประหยัดพลังงาน ราคาถูก รับรองเทรนด์นี้มาแน่!

ที่มา :: ecocarmania.com
http://www.kroobannok.com/30333


เรื่องของรถ eco car รถประหยัดพลังงาน สะท้อนการใช้สมอง
เรื่องของรถ eco car นั้นใกล้มาถึงจุดเริ่มต้นในประเทศไทยแล้ว เพราะเห็นว่าบริษัทรถยักษ์ใหญ่รายหนึ่งประกาศจะเปิดตัวรถในไทยในช่วงมีนาคม นี้

โดยส่วนตัวผมถือว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับประเทศ แม้ว่าคนจำนวนมากยังไม่ตระหนักนักว่ารถเล็ก (eco car) นั้นมีผลดีต่อส่วนรวมแค่ไหน

ฝรั่งที่เป็นคนผลิตรถเห็นตรงกันว่า รถขนาดกลางขึ้นไป (ที่เรียกว่า compact car) นั้น มักจะใช้นั่งกันแค่คนเดียวเป็นหลัก ทั้งช่วงเช้าและเย็น ส่วนอีก 3 ที่นั่งที่ว่างนั้น นานทีถึงจะมีคนมาใช้ จึงเกิดความคิดกันว่าเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่า ตั้งแต่การผลิต น้ำมัน ไอเสียรถที่ปล่อยออกมา รวมทั้งราคาซื้อที่แพงขึ้น และค่าบำรุงรักษา

ส่วนรถเล็กที่เรียกว่าซิตี้คาร์ หรือ eco car นั้น เหมาะสำหรับคนเมือง ที่เช้า-เย็น นั่งอยู่คนเดียว ประหยัดทั้งการผลิต ซื้อหา ที่จอด ประหยัดพลังงาน ฯลฯ และหากจะมีคนขึ้นมานั่งอีกคนก็ยังสะดวกอยู่ คือดันเบาะนั่งไปข้างหลัง (ที่ว่างอยู่) แต่เมื่อใดที่มีคนที่ 3 หรือ 4 ขึ้นมานั่งด้วย ก็ต้องทนคับแคบเอาหน่อย แต่นานๆ จะเกิดขึ้นครั้ง

รถเล็กจึงเป็นรถที่มีเป้าหมายเฉพาะของตนเองคือประหยัดในทุกเรื่อง ส่วนรถใหญ่ เป้าหมายคือ ความสะดวก สบายในทุกโอกาส ให้ความสะดวกกับคนนั่งทุกคน

คำถามคือ รถในเมืองที่นั่งคนเดียวเป็นหลักควรจะเป็นรถขนาดใด? คำตอบ ชัดเจน คือควรเป็นรถเล็ก แต่คนไทยนั้นชอบตัดสินด้วยหัวใจ (heart) มากกว่าที่จะใช้เหตุผล (head)

คนไทยนั้นชอบแสดงออกซึ่งฐานะของตน แม้ว่าค่อนข้างจน ก็ยังชอบที่จะมีสิ่งบ่งบอกว่าตนเองรวย เช่น อยู่บ้านค่อนข้างซ่อมซ่อ แต่ยอมกู้เงินซื้อรถราคาเรือนล้านขับไปทำงานคนเดียว นี่เรียกว่าทำด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยเหตุผล

โลกเราวันนี้มีรถอยู่ราว 50 กว่าล้านคัน ประเทศของเราเป็นแหล่งผลิตอันดับ 14 ของโลก คือราว 1.4 ล้านคันต่อปี และรัฐบาลมีเป้าหมายว่าในปี 1995 เราจะขยับตำแหน่งของตนเองมาอยู่ที่อันดับ 10 ของโลกให้ได้

หมายความว่าเราต้องเพิ่มยอดขายให้ได้มากขึ้น ยอดผลิตจึงจะเพิ่มขึ้น และวันนี้ดูเหมือนเราได้ตัดสินใจมาในทางที่ถูกแล้ว คือสร้างทางเลือกของสังคม ให้เกิดรถประหยัดพลังงาน ไม่ใช่มีให้เลือกแต่รถใช้พลังงานทางเลือกต่างๆ

ในยุโรป ดินแดนที่คนไทยคิดว่ารวยและฟุ่มเฟือย แต่จริงๆ คนยุโรปของแทบทุกประเทศประหยัด จนถึงตระหนี่ ไม่ต้องการเอาวัตถุมาเป็นเครื่องบ่งชี้ความรวย ความจนของตนเองมากเหมือนบ้านเรา

ที่สำคัญ เขามักมีความคิดที่หลากหลาย มีความรับผิดชอบต่อ สังคม ไม่รุกล้ำสิทธิของผู้อื่น เช่น การปล่อยไอเสียในปริมาณมาก ผิด ไม่ต่างจากอาชญากรรม การไม่ยอมทำตามกฎจราจรเป็นสิ่งน่าอับอายอย่างมาก การไม่ยอมจอดรถให้คนข้ามทางม้าลายเป็นเรื่องที่ทำให้ถูกประณามได้ ฯลฯ

หากใช้สติมากกว่าใช้อารมณ์ ทุกอย่างในบ้านเราจะดีกว่านี้มาก นับตั้งแต่สิ่งแวดล้อม จราจร ไปจนถึงความสงบของสังคม

อินไซด์ต่างประเทศ กับ วิจักขณ์ ชิตรัตน์
ที่มา นสพ.ข่าวสด
http://webboard.yenta4.com/topic/380256

No comments:

Post a Comment